อีซองคยอง(Lee Sung Kyung) และคิมยองแด(Kim Young Dae) ได้รับการยืนยันให้ร่วมแสดงในละครเรื่องใหม่ทางช่อง tvN “Shooting Star” (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ)!
“Shooting Star” เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่ทำงานเบื้องหลังวงการบันเทิง เช่น ทีมประชาสัมพันธ์ ผู้จัดการ และนักข่าว และขจัดความยุ่งเหยิงที่เกิดจากดารา โรแมนติกคอมมาดี้จะบอกเล่าเรื่องราวของโอฮันบยอล หัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์ของบริษัทบันเทิงแห่งหนึ่ง และกงแทซัง ดาราชั้นนำผู้ไร้ที่ติ ซึ่งเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของเธอด้วย ละครเรื่องนี้รวบรวมเรื่องราวเบื้องหลังที่แท้จริงของผู้คนที่ใช้เลือด หยาดเหงื่อ และน้ำตาเพื่อทำให้คนดังเปล่งประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืน “Shooting Star” จะเขียนโดยนักเขียนชเวยองอูและกำกับโดยผู้กำกับอีซูฮยอนจาก “Find Me in Your Memory”, “Awaken” และ “The Witch’s Diner”
อีซองคยองจะรับบทเป็นหัวหน้าทีมประชาสัมพันธ์โอฮันบยอล เธอมีทักษะการพูดที่ยอดเยี่ยมและมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการรับมือกับวิกฤต ด้วยความสามารถอันยอดเยี่ยมของเธอในการ “ดึงดูด” ผู้อื่น เธอจึงครองอุตสาหกรรมในขณะที่ทำงานในด้านต่างๆ เช่น การประชาสัมพันธ์ การตอบสนองต่อวิกฤต การสื่อสาร และอื่นๆ
คิมยองแดรับบทเป็นกงแทซัง ดาราโปสเตอร์ของหน่วยงานซึ่งมักจะทะเลาะกับโอฮันบยอล เขาเป็นคนดังระดับ A ที่ได้รับความรักมากมายจากคนทั่วไปด้วยรอยยิ้มที่เหมือนนางฟ้าและภาพลักษณ์ที่ตรงไปตรงมาของเขา อย่างไรก็ตามกงแทซองยังมีจุดหลอมเหลวสั้นๆ และมีลักษณะการแข่งขันสูง
ละครเรื่องต่อไปจะบรรยายเรื่องราวของโอฮันบยอลผู้มีความสามารถและกงแทซังที่สมบูรณ์แบบเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันในขณะที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นในกระบวนการ
หัวหน้าโปรดิวเซอร์โซแจฮยอนจาก Studio Dragon กล่าวว่า “ละครเรื่องนี้จะมอบความสนุกสนานและความลุ่มลึกให้กับผู้ชม โดยการรวบรวมเรื่องราวของดาราอย่างตรงไปตรงมาไม่เพียงแต่กับผู้จัดการ ทีมประชาสัมพันธ์ และนักข่าวที่สนับสนุนวงการบันเทิงในระดับแนวหน้า ”
ที่มา 1
You may also like
-
Prime Video เตรียมจัดงานเปิดตัวและฉายรอบปฐมทัศน์ GOOD BOY ซีรีส์เกาหลีที่ที่หลายคนตั้งตารอคอย ในประเทศไทย
-
ปาร์ค จีฮุน ก้าวสู่ระดับโลกด้วยบทบาทสุดเข้มข้นใน “Weak Hero Class 2” ซีรีส์มาแรงจาก Netflix
-
5 เหตุผลที่ไม่ควรพลาดซีรีส์ The Divorce Insurance (เกมรักประกันใจ)
-
อีซียอง(Lee Si Young) ประกาศหย่าหลังแต่งงานมา 8 ปี
-
“The Witch” เรตติ้งผู้ชมพุ่งขึ้นครึ่งหลัง และ “The Potato Lab” ยังคงรักษาระดับสำหรับตอนที่ 2